วันที่ 31 ต.ค. เป็นวันที่ชาว เคลต์ (Celt) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองเผ่าหนึ่งในไอร์แลนด์ ถือกันว่า เป็นวันสิ้นสุดของฤดูร้อน และวันต่อมา คือ วันที่ 1 พ.ย. เป็นวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งในวันที่ 31 ต.ค. นี่เองที่ชาวเคลต์เชื่อว่า เป็นวันที่มิติคนตาย และคนเป็นจะถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน และวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตในปีที่ผ่านมาจะเที่ยวหาร่างของคนเป็นเพื่อสิงสู่ เพื่อที่จะได้มีชีวิตขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เดือดร้อนถึงคนเป็น ต้องหาทุกวิถีทางที่จะไม่ให้วิญญาณมาสิงสู่ร่างตน ชาวเคลต์จึงปิดไฟทุกดวงในบ้าน ให้อากาศหนาวเย็น และไม่เป็นที่พึงปรารถนาของบรรดาผีร้าย นอกจากนี้ยังพยายามแต่งกายให้แปลกประหลาด ปลอมตัวเป็นผีร้าย และส่งเสียงดังอึกทึก เพื่อให้ผีตัวจริงตกใจหนีหายสาบสูญไป
วันพฤหัสบดีที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2551
ฮาโลวีน..
วันที่ 31 ต.ค. เป็นวันที่ชาว เคลต์ (Celt) ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองเผ่าหนึ่งในไอร์แลนด์ ถือกันว่า เป็นวันสิ้นสุดของฤดูร้อน และวันต่อมา คือ วันที่ 1 พ.ย. เป็นวันขึ้นปีใหม่ ซึ่งในวันที่ 31 ต.ค. นี่เองที่ชาวเคลต์เชื่อว่า เป็นวันที่มิติคนตาย และคนเป็นจะถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน และวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตในปีที่ผ่านมาจะเที่ยวหาร่างของคนเป็นเพื่อสิงสู่ เพื่อที่จะได้มีชีวิตขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เดือดร้อนถึงคนเป็น ต้องหาทุกวิถีทางที่จะไม่ให้วิญญาณมาสิงสู่ร่างตน ชาวเคลต์จึงปิดไฟทุกดวงในบ้าน ให้อากาศหนาวเย็น และไม่เป็นที่พึงปรารถนาของบรรดาผีร้าย นอกจากนี้ยังพยายามแต่งกายให้แปลกประหลาด ปลอมตัวเป็นผีร้าย และส่งเสียงดังอึกทึก เพื่อให้ผีตัวจริงตกใจหนีหายสาบสูญไป
มังคุด
ผลมีเปลือกนอกค่อนข้างแข็ง มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4-6 เซนติเมตร เนื้อในมีสีขาวฉ่ำน้ำ เส้นผ่านศูนย์กลาง 3-5 เซนติเมตร อาจมีเมล็ดอยู่ในเนื้อผลได้ ขึ้นอยู่กับขนาดและอายุของผล จำนวนกลีบของเนื้อจะเท่ากับจำนวนกลีบดอกที่อยู่ด้านล่างของเปลือก
ผลมังคุดมีรสชาติหวานอมเปรี้ยวเหมือนสตรอว์เบอรี่ที่ยังไม่สุกหรือส้มที่มีรสหวาน เมล็ดไม่สามารถใช้รับประทานได้
มังคุดเป็นผลไม้จากเอเชียที่ได้รับความนิยมมาก ปัจจุบันมีการเพาะปลูกและขายบนเกาะบางเกาะในหมู่เกาะฮาวาย ต้นมังคุดต้องปลูกในสภาพอากาศอบอุ่น หากอุณหภูมิลดลงต่ำกว่า 4 °C จะทำให้ต้นมังคุดตายได้
ทุเรียน
ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงทั้งยังอุดมไปด้วยกำมะถันและคอเลสเตอรอล ไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานเพราะหากกินเข้าไประดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็วยังทำให้ร้อนในและรู้สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว
ขึ้นได้ดีในดินร่วนซุยหรือดินร่วนปนทราย ชอบแสงแดด ชอบน้ำปานกลาง ขยายพันธุ์ ด้วยการเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง เสียบยอด ปลูกได้ทุกภาคในประเทศไทย มีมากทางภาคใต้ ส่วนใหญ่นิยมการขยายพันธุ์โดยใช้วิธีตอนกิ่งจะได้พันธุ์ตรงตามต้นแม่
ทุเรียนจะให้ผลผลิตหลังการปลูก 5 - 6 ปี ช่วงอายุที่ให้ผลผลิตสูงประมาณ 10 ปีขึ้นไป ผลผลิตประมาณ 80 - 110 ผล/ต้น หรือประมาณ 240 - 320 กก./ตัน/ปี (คิดน้ำหนักเฉลี่ยผลละ 3 กก.) ฤดูกาลของผลผลิตทุเรียนภาคตะวันออก คือ เมษายน - มิถุนายน และภาคใต้ คือ มิถุนายน - สิงหาคม
น้ำปั่นผลไม้
ในการปั่นน้ำผลไม้ให้มีรสชาติเข้มข้นและอร่อยนั้น เราจะต้องผสมสิ่งที่เราจะใช้ลงไปให้ได้ในอัตราส่วนที่เหมาะสม ไม่จืด หรือรสจัดจ้านกินแล้วบาดคอจนเกินไป ซึ่งทุกอย่างมีเทคนิคง่ายๆ เราต้องทำให้ไม่ยุ่งยาก ทำให้สะดวก รวดเร็ว และประหยัดต้นทุนมากที่สุด
สวนส้ม
ที่อยู่ หมู่ 5 ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
โทรศัพท์ (053) 885255-6
เจ้าของ คุณครรชิต ตติปาณิเทพ (ประธานชมรมสวนส้ม ฝาง-แม่อาย-ไชยปราการ)
สวนส้มช.เจริญ เป็นสวนส้มขนาดกลางสวนหนึ่งในภาคเหนือ ที่มีการจัดการสวนอย่างดีเยี่ยม สภาพแวดล้อมของสวนอยู่บนเนินอย่างสวยงาม เปิดดำเนินการมาแล้ว 14 ปี ส้มสายน้ำผึ้งและส้มฟรีมองต์ของสวน ช.เจริญมีรสชาติดี มีชื่อเสียงเป็นที่นิยมของผู้บริโภคโดยทั่วไป ที่สวนมีกระบวนการคัดบรรจุที่ได้มาตรฐาน โดยส้มส่วนใหญ่จะบรรจุใส่กล่องส่งไปจำหน่ายที่กรุงเทพมหานคร
พันธุ์ส้มที่ปลูก
ปัจจุบันส้มที่ปลูกในสวน ช. เจริญมี 2 สายพันธุ์ คือ ส้มสายน้ำผึ้ง และ ส้มฟรีมองต์ โดยกล้าพันธุ์ในระยะแรกคุณครรชิตรับมาจากสวนส้มธนาธร ปัจจุบันทางสวนมีแปลงเพาะกล้าส้มของตนเอง เป็นส้มพันธุ์ปลอดโรค และยังจำหน่ายแก่เกตรกรตลอดจนผู้สนใจปลูกส้มทั่วไปในราคาถูก
การปลูก
สวนส้ม ช.เจริญ จะยกร่องแปลงปลูกส้มเป็นแนวขั้นบันได เนื่องจากสภาพสวนเป็นเนินมีระบบการระบายน้ำดี ทางสวนใช้ระยะปลูกค่อนข้างห่าง คือ ระยะ 4 x 6 เมตร การปลูกในระยะห่างเช่นนี้อาจจะทำให้ได้ผลผลิตต่ำในระยะแรก แต่มีข้อดีคือจัดการเรื่องความสะอาดใต้โคนต้น ตัดแต่งกิ่ง ได้ง่าย สะดวกในการควบคุมโรค ต้นส้มเกือบทั้งหมดเป็นส้มจากกิ่งตอน แต่ก็มีบางส่วนที่เป็นต้นติดตา โดยใช้ต้นตอเป็นส้มคลีโอพัตรา
การดูแลรักษา
การให้น้ำจะใช้บิ๊กกัน ซึ่งมีข้อดีคือจะล้างใบส้มได้ แต่ก็จะมีข้อเสียคือค่อนข้างเปลืองน้ำ การใช้มินิสปริงเกอร์จะมีต้นทุนต่ำกว่า และประหยัดน้ำได้มากกว่า แต่ล้างใบไม่ได้ ความถึ่ในการให้น้ำคือให้น้ำทุกๆ 3 วัน ปริมาณการให้น้ำ 200 ลิตรต่อครั้งต่อต้น ความกว้างของทรงพุ่มประมาณ 2-2.5 เมตร มีการตัดแต่งกิ่งเป็นประจำทุกๆ 4 เดือน ไม่มีการใช้ไม้ค้ำกิ่งส้ม มีการดายหญ้าบริเวณโคนต้นส้มทุกๆ 3 เดือน ทุกๆปีจะมีการนำปูนขาวผสมคอปเปอร์ซัลเฟต (จุนสี) ทาบริเวณใต้โคนต้น ป้องกันแมลง มด ปลวก เข้าทำลายต้นส้ม รวมไปถึงป้องกันโรครากเน่า-โคนเน่าด้วย
การจัดการหลังการเก็บเกี่ยว
สวนส้มช.เจริญ มีการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวเป็นไปตามมาตรฐาน มีการใช้อุปกรณ์เก็บเกี่ยวที่อยู่ในระดับเดียวกับสวนส้มขนาดใหญ่ ในขั้นตอนการคัดบรรจุมีการจัดการที่ดี มีเครื่องจักรประสิทธิภาพสูง จึงทำให้มีส้มที่เสียหายในระหว่างคัดบรรจุน้อยมาก ทางสวนมีสติกเกอร์เป็นของตัวเอง มีการคัดเกรดส้มเป็นเกรดต่างๆ ตามมาตรฐานที่กำหนดขึ้น เพื่อเป็นการรับประกันคุณภาพส้มก่อนส่งถึงมือผู้บริโภค
วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2551
Crème glacée
La crème glacée est élaborée à partir de produits laitiers tels que la crème et le lait, mais également les jaunes d'œufs, combinée à des arômes et/ou (depuis peu) à des édulcorants comme le sucre.
Le sorbet qui est un mélange de sirop de sucre (50% eau, 50% sucre) et de pulpe de fruit, ou d'un arôme, ou d'un alcool.
Ces préparations sont refroidies, en mouvement continu pour éviter la formation de gros cristaux de glace, dans une machine appelée sorbetière.
Les crèmes glacées étaient bien connues des Ottomans, ou même des Perses. Une région en particulier dans l'actuelle Turquie, dans la province de Marach présente une glace de consistance très élastique et au goût assez prononcé à l'odeur de lait de brebis. D'après Eric Hansen, auteur d'un ouvrage sur les orchidées, "Orchid Fever", elle est fabriquée à partir de bulbes d'orchidées, (se prononce chalep en turc ou en arabe) connues pour leurs qualités gélifiantes. La tradition de la glace à l'orchidée, à Maras, remontait à plus de trois siècles.
En Europe, c'est Marco Polo revenant de la Chine qui – au XIIIe siècle – fit connaître, en Italie d'abord, les glaces produites toute l'année grâce au secret chinois. Les glaces ont d'abord été réservées aux tables royales et papales, mais à la fin du XIXe siècle, des marchands de glaces déambulaient déjà dans les rues des capitales, avec un succès jamais démenti.